**เคยเห็นพวกทำควิซในเด็กดีว่า "คุณจะเป็นตัวละครตัวไหน ในเรื่อง....." ไหม
วันนี้เลยนั่งทำบ้าง แต่เป็นแบบตรงกันข้าม (?)
"วิเคราะห์ลักษณะความชอบคาแรคเตอร์ A/Z"
ก่อนจะอ่านบทความ (มั้ง) ต่อไปนี้ กรุณา ทิ้งความเป็นแฟนเกิล์ด แฟนบอยออกไป ทั้งด้วยเหตุผล น่ารัก เก่ง เท่ จิ้นได้ บลาๆ ที่ดูไม่สร้างสรรค์ออกไป ถ้ากำลังคิดว่า "ฉันชอบด้วยเหตุผลแค่นี้อ่ะ จะทำไม" ก็ๆๆ ก็คุณไม่ใช่คนคิดมาก งั้นก็เดินออกไปจะดีกว่า....ไหม?
แต่ก็อยากให้มาลอง"อ่านดู" แล้วลองคิดให้มากๆ "ละเอียดๆ ลึกๆ"
ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงให้เข้าใจและไม่มีอคติต่อคนเขียน แต่เอาเป็นว่า นี้คือความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน "ถูกหรือผิด ไม่มีความหมายนะครับ"
Inaho Kaizuka
"ความพอใจในตัวเอง แต่พร้อมที่จะก้าวต่อไป"
มันไม่แปลกที่คนเราจะชอบคาแรคเตอร์ที่มีความเก่งกาจ ซึ่งเปรียบเสมือนสิ่งชดเชยความฝันที่(ยัง)ไม่เป็นจริงของตัวบุคคลอย่างเราๆ คาแรคเตอร์เหล่านี้จะต่อยอดจินตนาการของเราเสมอ ตั้งแต่วัยเด็กจวบจนโตเป็นผู้ใหญ่ ใครหลายๆคนคงยังจำความรู้สึกที่เคยหลงไหลในคาแรคเตอร์ผู้เป็นฮีโร่พิทักษ์คุณธรรมในรูปแบบต่างๆตอนเด็กได้จริงไหม แต่ฮีโร่ของคุณ เมื่อคุณโตขึ้น จะกลายเป็นแค่คนธรรมดา ที่ไม่ได้มีพลังวิเศษอะไรสวยหรู แต่มีความสามารถพิเศษแทน ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงไป ตามวุฒิภาวะของคุณ เมื่อเราโตขึ้น โลกไม่ได้สวยงามอย่างที่คุณคิด "ความสมบูรณ์แบบนั้นไม่ได้มีจริง"......."คาแรคเตอร์ที่มีความสวยงามหรือเท่องค์อาจ" จึงไม่จำเป็นสำหรับคุณอีกต่อไป ใช่แล้ว ไคซึกะ อินาโฮะ หากดูตามการดีไซน์คาแรคเตอร์แล้ว คาแรคเตอร์ประเภทนี้ ไม่น่ามีเด็กเล็กคนใดสมควรจะพิสมัยเลยจริงไหม? เขาเป็นแค่คาแรคเตอร์ที่ถูกดีไซน์ขึ้นมาอย่างจืดๆ ด้วยบทบาทตัวเอก แต่มีความสามารถเป็นตัวชูโรง หากคุณคิดว่า "คุณยอมรับอินาโฮะในฐานะคาแรคเตอร์ที่เก่งกาจและน่าชื่นชอบ" สิ่งนั้นเป็นสิ่งยืนยันว่า คุณให้ความสำคัญกับความสามารถและสติปัญญาอย่างมาก คุณต้องการที่จะทำให้อะไรต่างๆดีขึ้นอยู่เสมอ คุณคงกล้ายอมรับอินาโฮะให้เป็นแบบอย่างของคุณ ในด้านใดด้านนึงเช่นกัน ส่วนใหญ่ เป็นด้านการควบคุมอารมณ์ (ซึ่งเป็นความสามารถที่สำคัญมากๆในสังคมยุคนี้เลยทีเดียว) และตรรกะ ถึงแม้ในเรื่องจะพรีเซนท์ออกมาได้อย่างโอเวอร์ก็เถอะ คุณมีวิจารณญาณในแบบของผู้ใหญ่และ "วิจารณญาณ จะเกี่ยวข้องกับความพึงพอใจที่จะยอมรับเหตุผลนั้น" เพราะฉะนั้นคุณเองก็ดูจะพอใจตนเองอยู่ไม่น้อย อย่างที่กล่าวไป เด็กจะไม่เคยพอใจในตนเอง และจะมองหาสิ่งที่ทดแทนในจิตใจ มาเติมเต็มฝันหวาน "ความสมบูณณ์แบบ"ได้เรื่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นการตั้งรูปลักษณ์เป็นหลักก่อน และค่อยลงรายละเอียดอื่นๆ แต่ไม่ใช่ว่าเราๆที่โตแล้ว จะพอใจในตนเองไปส่ะทีเดียว เวลาเราเลือกดูอนิเมะ เราก็ปฏิเสธไม่ได้จริงไหม ว่ายังติดนิสัยเลือกคาแรคเตอร์อยู่ เลือกก่อนที่จะสนใจเนื้อหาหรือพล็อตเรื่องบ้างเป็นครั้งคราว แม้เรารู้อยู่แก่ใจว่า นั้นไม่ใช่คำตอบทั้งหมดก็ตาม....... เมื่อใดที่คุณพอใจในสิ่งที่คุณมีอยู่ คุณจะให้ความสำคัญกับสิ่งละเอียดอ่อนอย่างความสามารถหรืออารมณ์มากกว่ารูปลักษณ์แน่นอน นั้นทำให้คุณพอใจในคาแรคเตอร์ที่ไม่สมบูรณ์แบบในโลกของจินตนาการ แต่สมบูรณ์แบบในโลกความเป็นจริงคนนี้อย่างไงล่ะ
Asseylum vers Allusia
"ความเคารพในตัวเอง"
คาแรคเตอร์สูงศักดิ์ ฟังดูไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก แต่ลองคิดดูดีๆสิว่า การที่จะยอมรับเจ้าหญิงคนนึงให้เข้ามาในใจของคุณนั้น มันแบ่งออกเป็นอย่างไรบ้าง ขอนำเสนอในมุมมองของผู้หญิง จะได้เข้าใจง่ายกว่า แต่สำหรับผู้ชาย ก็ลองคิดตามดูนะ ถ้าหากคุณเป็นเด็กผู้หญิง คุณคงเคยจินตนาการตนเองในเสื้อผ้าสวยงามและพระราชวังเลิศหรูสักครั้งนึงแน่ "คุณรู้สึกหลงไหลที่จะอยากเป็นหรือหลงไหลที่เธอเป็น" กันแน่? เมื่อใดที่พูดถึงเจ้าหญิง มันแลดูเป็นอะไรที่ห่างไกล จนไม่สามารถนับได้ หลายๆคนเมื่อโตขึ้น เมื่อคุณรับรู้ความเป็นจริงว่า "ชีวิตของคุณมันไม่ได้สวยงามอย่างที่คิดไว้" คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะรู้สึกเอียนกับบทบาทคาแรคเตอร์ที่อยู่สูงเกินไปในชั่วขณะนึง ผู้หญิงบางคนอาจอคติกับบทบาทเจ้าหญิงไปเลยก็มี (ยอมรับไหม ว่าสาววายบางคนสาปแข่งการปรากฏตัวของเธออย่างเลือดเย็น หรือบางคนยังไม่ได้ดูอนิเมะเป็นเรื่องราว ก็ดันพูดออกนอกหน้าแล้วว่าหมั่นไส้ตัวละครประเภทเจ้าหญิงแล้ว ทำไมล่ะ? เธอมีสิ่งใดไม่ดีอย่างงั้นหรอ?) แต่ถ้าหากยอมรับได้ว่า ความสวยงามหรือสูงส่งบางอย่าง มีไว้ให้เรารู้สึกหลงไหล มันก็เพียงพอแล้ว คุณจะไม่รู้สึกอคติใดๆกับอัสเซลั่ม ผู้มีทุกสิ่งเพรียบพร้อมสมกับคำว่า "เจ้าหญิงที่น่าเคารพ" ทั้งความรู้และจิตใจแสนบริสุทธิ์ของเธอ มันช่างเป็นอะไรที่หาคำติได้ยาก (ถ้าไม่นับเรื่องซื่อเกินไปน่ะนะ) เมื่อคุณระลึกได้ว่าความฝันวัยเด็กของคุณมันไม่ได้แย่ มันไม่ใช่แผลแสนหลอกลวงในใจของคุณ คุณคือคนๆนึงที่สามารถทำให้ชีวิตของคุณ "เป็นได้ดั่งใจแม้ไม่ใช่เจ้าหญิง นั้นเป็นความรู้สึกสำคัญที่บ่งบอกว่าคุณเคารพตัวเองมากเพียงใด" คุณเคารพความคิดของคุณเองและนั้นก็ทำให้คุณเคารพเจ้าหญิงคนนึงที่ถูกออกแบบมาเช่นกัน เพราะคำด่าสาปแช่งต่างๆเพื่อสนองความต้องการในใจของคุณ ถามจริงๆว่า ลึกๆแล้ว คุณเกลียดคนดีอย่างเธอจริงหรอ?
สรุปง่ายๆว่า "หากคุณยอมรับคนที่อยู่สูงกว่าคุณจากใจจริง โดยไร้ซึ่งอคติใดๆ" นั้นหมายถึงคุณเคารพทั้งตัวเอง และคนที่เก่งกว่าคุณ "วงจรหมั่นไส้ ริษยา ดูหมิ่น จนถึงการเหยียดหยามในสังคม ก็คงจะค่อยๆหายไปจากใจคุณเอง"
Slain Troyard
"ความอ่อนแอที่มีตัวตน"
หลับตาและทิ้งภาพลักษณ์ของสเลนในอนิเมะออกไป ทั้งที่คุณเห็นในฐานะคนดู และจินตนาการเลยเถิดแบบไม่จำเป็น (จิ้นมากไป) นั้นเสีย
แต่ลองถามตัวเองดูว่า "ถ้าหากอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน คุณจะหาทางแก้ได้ดีกว่านี้ได้หรือไม่ คุณจะควบคุมตัวเองได้ดีกว่าสเลนงั้นหรือ คุณคิดว่าคุณวางแผนอะไรได้ดีกว่าเขาอีกไหม?????????"
ภาพลักษณ์อ่อนแอ ไร้ความเก่งกาจ จนน่าสงสาร ลองมองย้อนกลับมาว่า "แตกต่างอะไรจากคุณมากน้อยขนาดไหน" ตั้งคำถามในฐานะมนุษย์คนนึงนะครับ ไม่ใช่ในฐานะคนดูผู้ชำนาญอนิเมะอย่างหลากหลาย เหลี่ยมจัดในการแก้ปัญหาในจินตนาการมาก การวิเคราะห์ การวิจารย์เป็นเลิศ แต่ สวัสดีครับ ผมกำลังพาคุณออกมาพบโลกคู่ขนาน........ ลองยอมรับความเป็นจริงดูว่า หมอนี้จริงๆแล้วย่ำแย่จริงๆตามที่คุณด่ากันเพื่อสนุกปาก เอามันส์ไหม ผมไม่ได้ประชดนะ แต่ลองคิดดูจริงๆนะครับ
ผมไม่คิดว่าคุณจะมีความมั่นใจมากพอที่จะบอกว่าตัวเองจะทำได้ดีกว่าเขาเลย คุณก็รู้ใช่ไหมว่าโลกแห่งความจริง สถานการณ์คับขัน มันไม่เหมือนในอนิเมะหรือในเกม ทั้งความกดดันและเงื่อนไขต่างๆที่เราไม่สามารถควบคุมได้
สเลนเป็นตัวแทนความดีงามแสนอ่อนแอของเราเช่นกัน มนุษย์เราสมัยนี้คำนึงแต่ตนเอง จนบางทีก็กล้าด่าคนที่ทำเพื่อคนอื่นว่าโง่ จริงไหม? คุณอาจมีทางออกที่ดีกว่าสเลนในหลายๆสถานการณ์ แต่นั้น ก็เกิดมาจาก "สัญชาตยานการทำเพื่อตัวคุณเอง" ทั้งสิ้น ก่อนที่จะไปคิดต่อยอดต่อ ว่าจะทำอย่างไรต่อไป
ผมค่อนข้างชอบในบทบาทของคาแรคเตอรตัวนี้ การชอบในบทบาท กับการชอบคาแรคเตอร์นั้นไม่เหมือนกันนะครับ ผมชอบบทบาทที่นำเสนอออกมาให้ผมคิดต่อยอดความเป็นจริงเล่นนี้ล่ะ มันทำให้คาแรคเตอร์ตัวนี้พิเศษไปเลย ทั้งอะไรต่างๆที่หักมุมจนใจหาย แต่สำหรับผม มันล้วนมีเหตุผลทางจิตใจทั้งนั้น ซึ่งสามารถอธิบายได้ แม้คำพูดสั้นๆอย่าง "ความเครียด" ก็ตาม
ถ้าไม่ดูเพื่อเอาสนุกอย่างเดียวนะ คุณอาจจะชอบความอ่อนแอนี้ก็เป็นได้ ความอ่อนแอที่มีเหตุผล อธิบายได้ "ความเป็นธรรมชาติ" นั้นก็คือ "ความสมบูรณ์ที่หาได้ยาก" เช่นกันนะ