วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Exclusive Interview with Music Artist Nano (Bull's eyes) แปลไทย


แปลบทสัมภาษณ์ ของนาโนะ
https://www.youtube.com/watch?v=uwSTvoXE4H8&feature=youtu.be

การทำเพลง Bull's eyes เป็นอย่างไรบ้าง แล้วอะไรที่คิดว่ายากที่สุด?

นาโนะ: "ตอนที่ได้รับงานนี้ รู้สึกเซอร์ไพรซ์มากเลย เพราะไม่เคยทำอะไรแบบนี้ ซี่รี่ย์แบบนี้มาก่อน เป็นคอนเซ็ปใหม่ของฉันเลยล่ะ แล้วคาแรคเตอร์ก็ค่อนข้างใหม่ อันที่จริง... มันเป็น spin-off ของภาคก่อนหน้านี้ มันเลยค่อนข้างท้าทายสำหรับเพลงที่จะเป็น Opening theme และมีข้อแตกต่างจากภาคก่อน ซึ่งต้องไม่ทำลายภาพลักษณ์หรือแทรกแซงความเป็นภาคก่อนเช่นกัน มันท้าทายจริงๆนะ เพราะไดเรคเตอร์เข้ามาคุยกับฉันค่อนข้างละเอียดทีเดียว ทั้งภาพลักษณ์ คอนเซป เสียง และอีกหลายๆอย่าง เราอยากให้มันเป็นอะไรที่ใหม่จริงๆ อยากให้ผู้ชม ไม่ใช่รับรู้แค่ความแตกต่าง แต่รวมถึงความพิเศษใหม่ๆในตัวงานเองด้วย เราเจาะจงและใส่ใจถึงเรื่องนี้ สูงมาก เราเขียนแนวเพลงแยกไว้ 3 แบบ ทั้งการเรียงเดโม้ ทั้งจังหวะ ทั้งเนื้อเพลง แต่สุดท้าย Bull's eyes ก็คือที่สุดอยู่ดี สำหรับฉัน ส่วนตัวแล้วค่อนข้างมีแรงบัลดาลใจต่อเพลงนี้เองด้วย มันท้าทายมากจริงๆที่เพลงนี้จะถูกนำมาใช้เป็นธีมของ Hidan no aria AA"

ตอนแรกคิดยังไงกับได้รับงานเพลง ที่เป็นธีมของ Hidan no aria AA"

นาโนะ: "ถ้าพูดกันเกี่ยวกับซีรี่ย์ ฉันดีใจมากจริงๆ เพราะว่าฉันไม่เคยทำงานเพลงกับซีรี่ย์แนวนี้มาก่อน ทั้งคาแรคเตอร์ อะไรหลายๆอย่างนั้นช่างแตกต่าง ฉันไม่ได้อยากถ่ายทอดแค่ฉากต่อสู้ แต่ความมีมิติของคาแรคเตอร์ ความสัมพันธ์ของคาแรคเตอร์ อะไรพวกนี้... แฟนๆของฉันมักจะคุ้นเคยกับเพลงร็อค แต่ว่าครั้งนี้ฉันอยากให้สัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ในเนื้อเพลงของฉัน ซึ่งฉันอยากฟังเสียงของแฟนๆมาก ว่าคิดเห็นอย่างไรกัน"

อะไรคือแกนหลักของเพลงนี้?

นาโนะ: "แน่นอนว่าเพลงนี้เน้นเกี่ยวกับการต่อสู้ อา.. การต่อสู้ระหว่างบุคคล แต่ในขณะเดียวกันก็คิดว่ามันแฝงนัยยะด้านบวกบางอย่างในซีรี่ย์นี้เช่นกัน ซึ่งฉันอยากถ่ายทอดออกมาผ่านทางเนื้อเพลง ถ้าหากแบ่งเนื้อเพลงออกเป็นสองส่วน จะรู้ว่ามันมีความหมายในด้านดีมากๆ ฉันคิดว่าเบื้องหลังการต่อสู้ทุกๆรูปแบบ จะมีกำลังใจหรือข้อความต่างๆ ที่จะทำให้คุณสู้จนถึงที่สุด ฉันคิดว่ามันจะเป็นแรงบัลดาลใจให้คนอื่นๆในการกระตุ้นตัวเองและไม่ยอมแพ้ส่ะก่อนจนถึงที่สุดเช่นกัน"

"อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณ ในการแต่งเพลงให้ Arpeggio of blue steel Ars Nova Cadenza?"

นาโนะ: "พูดถึงก่อนหน้านี้ก่อน ฉันอยู่กับซีรี่ย์นี้ตั้งแต่ต้นและรู้สึกเข้าถึงมันจริงๆไปแล้ว ฉันต้องทำเป็นโปรเจคและแน่นอนว่ามันต้องมีความหวัง ตอนแรกๆสต๊าฟไม่เคยคิดว่ามันจะออกมายิ่งใหญ่ขนาดนี้ และฉันก็ดีใจกับมันมากๆ คุณก็รู้ว่าฉันอยู่กับซีรี่ย์นี้มานานมากแค่ไหน จนคิดว่ามันเป็นส่วนนึงของตัวฉันไปแล้ว เพลงต่างๆมีการผ่านอะไรมากเช่นกันจึงมีแนวที่หลากหลาย ไม่ใช่แค่เพลง OP ที่ตรึงจิตใจ แต่เพลง Insert นั้นแตกต่างออกไป เพราะมันจะถูกใช้ในฉากที่สำคัญมากๆ มันต้องไม่ใช่เพลงที่คนฟังยึดติดกับเพลง แต่ต้องลื่นไหลไปกับฉากนั้นให้ได้ ฉันจึงอยากจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกับคาแรคเตอร์นั้นให้ได้ มันจึงเป็นอะไรที่ท้าทายอย่างมาก ทั้งต้องอัด ทั้งต้องก้าวออกไป ...เอ่อ ท้าทายตัวเองด้วย อะไรหลายๆอย่าง //หัวเราะ หวังว่าแฟนๆจะสนุกไปกับมันนะ (คือหลังๆพูดเบามาก........)

รู้สึกว่ามีสายสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นระหว่างเพลงกับอนิเมะไหม?

นาโนะ: "ทั้งเนื้อเพลง... ฉันชอบอนิเมะโดยส่วนตัวอยู่แล้ว ฉันดูซีรี่ย์มากมาย ฟังเพลงมากมาย แต่สรุปแล้ว ฉันไม่เคยแยกแยะเพลงเลย ว่าเพลงนี้เป็นแนวยังไง ว่านี้คือเจร็อค นี้ค่อเจป็อป หรือนี้คือเพลงอนิเมะ (อนิซอง) ฉันคิดว่าการแยกแยะแบบนี้สำคัญเลย ฉันชอบในสิ่งที่ฉันชอบ ฉันฟังในสิ่งที่ฉันชอบ และแน่นอนว่าฉันดีใจมากที่เพลงของฉันถูกนำไปเป็นสื่อต่างๆ โดยเฉพาะมันถูกยอมรับว่าเข้ากันได้กับซีรี่ย์ต่างๆ เวลาที่ได้เห็นเพลงของฉันเล่น มันทำให้รู้สึกดีใจจนตื่นตูมไปเลย ไม่ว่าจะกี่ครั้งกี่หน มันก็มีผลต่ออารมณ์ของฉันเสมอ"

อะไรที่ทำให้คุณมาเป็นศิลปิน?

นาโนะ: "ฉันมัก....ฉันคิดว่าถ้าย้อนกลับไปตั้งแต่จำความได้ ฉันก็เป็นคนที่คุ้นเคยกับดนตรีแล้ว ในบ้านของฉันมักจะเล่นดนตรี พ่อแม่ของฉันมักจะฟังเพลงบางประเภท และรู้สึกว่ามันคือธรรมชาติของตัวฉันที่จะเชื่อมโยงกับเพลงแบบนี้ ตั้งแต่แรกไม่ได้มีปณิธานในการเป็นนักร้องมากนัก แต่พอได้ดูอนิเมะเรื่องแรก ฉันก็รู้จักกับอาชีพนักทำเพลง และเป็นเพลงที่โดนใจฉันมาก แบบว่า 'เฮ้ นี้มันสุดยอดไปเลยนะ!' เป็นสิ่งที่ฉันสนกไปกับมันและชื่นชอบ ฉันจึงเริ่มที่จะร้องเพลง และนี้คือสิ่งที่ฉันอยากทำจริงๆ พอเริ่มเข้าใจเพลง พอเพลงมันเข้ามาในตัวฉัน ฉันก็ไม่มีความคิดว่าจะทำสิ่งอื่นใดอีกแล้ว กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้มันเป็นอะไรที่ยาว มากๆและมากจริงๆ แต่ฉันไม่เคยลืมมันเลย ไม่รู้สิ ยังไงฉันก็คือส่วนนึงของเวลานั้น แต่อะไรที่ฉันชอบ ฉันจะทำมันให้ดีที่สุดจนกว่าจะถึงที่สุดเช่นกัน"

คุณวางแรงบัลดาลใจไว้อย่างไรต่องานใหม่ของคุณ?

นาโนะ: "ถ้าพูดถึงเพลงนี้ ก็ ตรวจสอบสคริป เช็คเบื้องลึกของตัวงาน และพยายามเข้าใจซีรี่ย์ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หลังจากนั้นก็การเรียบเรียงเดโม้ และคุยกับทีมงานว่าเพลงแบบไหนถึงจะเข้ากับซีรี่ย์นี้ได้ดีที่สุด ตอนแรกฉันฟังเดโม้ครั้งแล้วครั้งเล่า หลังจากนั้นก็เริ่มจับธีม คีย์เวิร์ด จับภาพ ความรู้สึกได้ ฉันเรื่มเชื่อมโยงมันเข้าด้วยกันแล้วเริ่มเขียนเนื้อเพลงตามความเข้าใจและอยากถ่ายทอด สิ่งสำคัญที่สุดคือความเข้าใจว่าคอนเซ้ปคืออะไร ก่อนที่จะถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดและสีสันในรูปแบบเราเอง และนั้นแหล่ะคือสิ่งที่ฉันทำ"

คุณได้ประสบการณ์แบบไหนจาก AFA Indonesia 2015?

นาโนะ: "ตื่นเต้นมาก เพราะเป็นครั้งแรกของฉัน ฉันเลยไม่รู้จะคาดหวังอะไร เรียกได้ว่าปีนี้เป็นปีอินเตอร์ของฉันเลย ฉันไปทั้งไต้หวัน ทั้งเยอรมัน และก็อินโดนีเซีย แต่ที่รู้คือผู้ชมในแต่ล่ะที่นั้นแตกต่างกันออกไปในแบบของ ประเทศตนเอง ในการร่วมคอนเสิร์ต ร้องเพลงไปพร้อมๆกัน เชียร์ไปพร้อมๆกัน ฉันไม่ได้คาดหวังอะไร แต่สิ่งที่มีผลกับฉัน คือแค่ทำให้ดีที่สุดเพื่อผู้ชมที่เสียตังค์มา ให้รู้สึกว่าเงินทุกเหรียญนั้นคุ้มค่ากับการใช้เวลาเข้ามาร่วมคอนเสิร์ตของฉัน ฉันต้องทำให้ดีที่สุด นั้นคือสิ่งเดียวที่ฉันคิด แต่พอคอนเสิร์ตจบลง มันทำให้ฉันอยากกลับมาที่นี้อีก เพราะผู้ชมทั้งตื่นเต้น อบอุ่น และให้การต้อนรับฉันอย่างดี ทุกคนพยายามร้องตาไม่ว่าภาษาญี่ปุ่นหรืออังกฤษ ทำให้รู้ว่าเพลงนี้คือปาฏิหาริย์แห่งความสุขจริงๆ"

คุณติดต่อกับแฟนๆทั่วโลกยังไง?

นาโนะ: "ฉันพยายามเคารพ ทุกๆประเทศเท่าที่ฉันทำได้ ฉันรู้ว่าประเพณีแต่ล่ะที่นั้นแตกต่างกัน ศาสนาต่าง การใช้คำต่าง ฉันก็ใช้อินเตอร์เน็ตหาข้อมูลแต่ล่ะที่ก่อนที่จะไป ศึกษามารยาทพื้นฐาน อะไรต่างๆ แต่สุดท้าย สิ่งที่เชื่อมพวกเราเข้าด้วยกันก็คือเพลง เพราะฉะนั้นมันไม่เกี่ยวว่าเตรียมพร้อมอย่างไร แต่เกี่ยวกับว่าเราพยายามเข้าถึงเขาอย่างไร ฉันคิดว่าการเชื่อมต่อกันเป็นอะไรที่สำคัญ ที่ฉันจะเจาะจงมากเวลาที่แสดงคอนเสิร์ต แต่ถึงตอนนี้ ไม่ว่าประเทศไหน ฉันก็ทำได้ แฟนๆให้การต้อนรับอย่างดี สิ่งต่างๆสะดวกลื่นไหลไปหมด ไม่มีสิ่งที่ทำให้ฉันกังวลเลย และสำหรับประเทศที่ยังไม่เคยไป ก็น่าสนใจมากเช่นกัน"

ประเทศอะไรที่อยากไปในครั้งต่อไป?

นาโนะ: "เป็นคำถามที่ดี ฉันก็อยากไปทุกประเทศ แต่ อืม...ฉันเล่นทั้งทวิตเตอร์ ทั้งเฟซบุ๊ค และได้รับข้อความจากแฟนๆทั่วโลก บางประเทศฉันจะได้รับการตอบรับดีมาก แต่บางประเทศในแถบตะวันตก พวกยุโรป อังกฤษ บราซิล ฉันได้รับข้อความมากมายจากอเมริกาใต้ ซึ่งฉันไม่เคยคิดว่าเพลงของฉันจะส่งไปถึง พอด้รับข้อความแล้วแปลกใจมากจริงๆ โดยเฉพาะอเมริกาที่เป็นบ้านเกิด ฉันจะไป หากแฟนๆอยากให้ฉันไป"

มีข้อความอะไรฝากถึงแฟนๆไหม?
นาโนะ: "ถ้ามีเวลาเป็นสิบชั่วโมงให้พูดทุกคำพูดที่อยากพูดนะ ฉันรู้สึกยินดีทุกครั้งที่ให้พูดถึงงานที่ฉันชอบ และฉันเกลียดที่จะเรียกมันว่างาน ฉันควรจะเรียกมันว่างาน แต่มันคือสิ่งที่ฉันชอบทำ และการที่ทั่วโลกได้รับฟังมากพอกับที่ฉันเป็น มันเป็นเรื่องจริง แต่การทำคอนเสิร์ตนั้นทำให้มันเป็นเรื่องจริงยิ่งกว่า มันทำให้ฉันมีเหตุผลและกำลังใจมากขึ้นที่จะเข้าถึงทั่วโลก ฉันอยากจะกล่าวว่า ขอบคุณอย่างมากกับการสนับสนุน ฉันอยากจะให้กำลังใจและการสนับสนุนของฉันผ่านทางบทเพลงเช่นกัน รอไม่ไหวที่จะได้พบกับทุกคน ที่จะเข้ามาร่วมคอนเสิร์ตจริงๆ"